หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “HIV” และ “เอดส์” อยู่บ่อยครั้ง และมักเข้าใจผิดว่าเป็นโรคเดียวกัน แต่ความจริงแล้ว HIV ไม่ใช่เอดส์ และผู้ที่ติดเชื้อ HIV สามารถมีชีวิตปกติได้หากได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
HIV คืออะไร ?
HIV (Human Immunodeficiency Virus) เป็นเชื้อไวรัสที่โจมตีระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์เม็ดเลือดขาว (CD4) ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
- อาการ – อาจไม่มีอาการในระยะแรกหรือมีอาการคล้ายไข้หวัดเล็กน้อย
- การติดต่อ – ผ่านสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ HIV เช่น เลือด น้ำอสุจิ น้ำนมแม่
- การรักษา – ปัจจุบันมียาต้านไวรัส (ARV) ที่ช่วยกดปริมาณเชื้อในร่างกาย ทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง และลดโอกาสพัฒนาไปเป็นเอดส์
เอดส์ (AIDS) คืออะไร ?
เอดส์ (Acquired Immunodeficiency Syndrome) คือกลุ่มอาการของโรค ที่เกิดจากภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างรุนแรง เป็นระยะสุดท้ายของการติดเชื้อ HIV ทำให้ภูมิคุ้มกันถูกทำลายจนร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับโรคต่าง ๆ ได้
- อาการ – มีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ เชื้อราในสมอง น้ำหนักลดผิดปกติ
- การติดต่อ – เอดส์ไม่ได้ติดต่อโดยตรง แต่เป็นภาวะที่เกิดจากการติดเชื้อ HIV ที่ไม่ได้รับการรักษา จึงกลายไปเป็น AIDS ในที่สุด
- การรักษา – ไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่สามารถชะลออาการได้ด้วยยาต้านไวรัส (ARV)
อีกหนึ่งความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือ เชื้อ HIV ไม่สามารถติดต่อได้ผ่านทาง
- การกอดหรือการสัมผัสกันในชีวิตประจำวัน
- การรับประทานอาหารร่วมกัน
- การไอหรือจามใส่กัน
- การถูกยุงหรือแมลงกัด
- การว่ายน้ำในสระเดียวกัน
ดังนั้น HIV จึงไม่ใช่เอดส์ และผู้ติดเชื้อ HIV ไม่จำเป็นต้องเป็นเอดส์เสมอไป โดยเราสามารถดูแลตัวเอง และป้องกันการติดเชื้อ HIV ได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
- ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
- หลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
- ตรวจหาเชื้อ HIV อยู่เสมอโดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง
หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ อวตารคลินิกยินดีให้คำปรึกษา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เน้นการรักษาแบบตรงจุดโดยใช้สมุนไพรไทยขึ้นตำรับ

แหล่งที่มา : โรงพยาบาลบางปะกอก 3, โรงพยาบาลศิครินทร์, โรงพยาบาลเปาโล, กรมควบคุมโรค