ความรู้สึกเบื่อหน่าย เศร้าซึมหรือเครียด เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ปกติในชีวิตประจำวัน แต่บางครั้งความรู้สึกเหล่านี้ก็อาจคงอยู่นานกว่าปกติ จนอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้
การแยกแยะความแตกต่างระหว่าง “ความเครียด” กับ “ภาวะซึมเศร้า” จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้เรารับมือกับปัญหาได้อย่างถูกต้อง และตรงจุด มาดูกันว่า ทั้งสองอาการมีความแตกต่างกันอย่างไร
ความเครียด (Stress)
คือการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายต่อสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่กดดันหรือเหตุการณ์เฉพาะ เช่น ปัญหาเรื่องงาน การเงิน สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
อาการที่พบบ่อยเมื่อเครียด
- หงุดหงิดง่าย กระวนกระวาย สมาธิสั้น
- ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- นอนไม่หลับ
- อาจมีพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไป เช่น กินมากขึ้นหรือน้อยลง
การดูแลตัวเองเมื่อเครียด
- หากิจกรรมผ่อนคลายที่ชื่นชอบ เช่น ฟังเพลง ดูหนัง วาดรูป เพื่อช่วยเบี่ยงเบนความคิด และทำให้ใจสงบมากขึ้น
- ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดินเร็ว โยคะ ช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งส่งผลดีต่ออารมณ์
- แบ่งเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้สมองและอารมณ์ฟื้นตัวได้ดีขึ้น
- พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ช่วยให้ใจเบาลง และลดความรู้สึกโดดเดี่ยว
ภาวะซึมเศร้า (Depression)
เป็นอาการป่วยทางอารมณ์ที่รุนแรงกว่าความเครียด ส่งผลต่อความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม ต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยสาเหตุอาจเกิดจากความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง ความเครียดสะสมหรือพันธุกรรม
อาการที่พบบ่อยเมื่อเป็นภาวะซึมเศร้า
- หดหู่ สิ้นหวัง เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เบื่ออาหาร/กินมากเกินไป
- นอนไม่หลับ/หลับมากเกินไป น้ำหนักเปลี่ยนแปลง
- คิดลบ มองโลกในแง่ร้าย มีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง
การดูแลตัวเองเมื่อมีภาวะซึมเศร้า
- หลีกเลี่ยงการเก็บตัวอยู่คนเดียว เพื่อลดความรู้สึกโดดเดี่ยว และช่วยให้ใจค่อย ๆ ได้ฟื้นฟู
- หากิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำเช่น จัดห้อง รดน้ำต้นไม้ เพราะการได้ทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สำเร็จจะช่วยสร้างความรู้สึกเชิงบวก และให้กำลังใจในการก้าวต่อไป
- อย่ากดดันตัวเอง ให้เวลากับการฟื้นฟูจิตใจ เพราะการฟื้นตัวต้องใช้เวลา การยอมรับและให้กำลังใจตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัย และการรักษา เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี
หากพบว่าตัวเองมีอาการคล้ายภาวะซึมเศร้าหลายข้อ และมีอาการต่อเนื่องเกินกว่า 2 สัปดาห์ จนเริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างรุนแรง ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
เพราะการขอความช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่คือการดูแลตัวเองที่ดีที่สุด
หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ อวตารคลินิกยินดีให้คำปรึกษา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เน้นการรักษาแบบตรงจุดโดยใช้สมุนไพรไทยขึ้นตำรับ

อ้างอิง : คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงพยาบาลราชพฤกษ์, โรงพยาบาลศิครินทร์