แค่เครียดชั่วคราวหรือกำลังเผชิญภาวะซึมเศร้า? มาเช็กตัวเองไปพร้อมกัน

แค่เครียดชั่วคราวหรือกำลังเผชิญภาวะซึมเศร้า? มาเช็กตัวเองไปพร้อมกัน

ความรู้สึกเบื่อหน่าย เศร้าซึมหรือเครียด เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ปกติในชีวิตประจำวัน แต่บางครั้งความรู้สึกเหล่านี้ก็อาจคงอยู่นานกว่าปกติ จนอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้

การแยกแยะความแตกต่างระหว่าง “ความเครียด” กับ “ภาวะซึมเศร้า” จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้เรารับมือกับปัญหาได้อย่างถูกต้อง และตรงจุด มาดูกันว่า ทั้งสองอาการมีความแตกต่างกันอย่างไร

ความเครียด (Stress)

คือการตอบสนองตามธรรมชาติของร่างกายต่อสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่กดดันหรือเหตุการณ์เฉพาะ เช่น ปัญหาเรื่องงาน การเงิน สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน

อาการที่พบบ่อยเมื่อเครียด

  • หงุดหงิดง่าย กระวนกระวาย สมาธิสั้น
  • ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • นอนไม่หลับ
  • อาจมีพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไป เช่น กินมากขึ้นหรือน้อยลง

การดูแลตัวเองเมื่อเครียด

  • หากิจกรรมผ่อนคลายที่ชื่นชอบ เช่น ฟังเพลง ดูหนัง วาดรูป เพื่อช่วยเบี่ยงเบนความคิด และทำให้ใจสงบมากขึ้น
  • ออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดินเร็ว โยคะ ช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งส่งผลดีต่ออารมณ์
  • แบ่งเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยให้สมองและอารมณ์ฟื้นตัวได้ดีขึ้น
  • พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ เป็นอีกหนึ่งทางออกที่ช่วยให้ใจเบาลง และลดความรู้สึกโดดเดี่ยว

ภาวะซึมเศร้า (Depression)

เป็นอาการป่วยทางอารมณ์ที่รุนแรงกว่าความเครียด ส่งผลต่อความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม ต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยสาเหตุอาจเกิดจากความไม่สมดุลของสารเคมีในสมอง ความเครียดสะสมหรือพันธุกรรม

อาการที่พบบ่อยเมื่อเป็นภาวะซึมเศร้า

  • หดหู่ สิ้นหวัง เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เบื่ออาหาร/กินมากเกินไป
  • นอนไม่หลับ/หลับมากเกินไป น้ำหนักเปลี่ยนแปลง
  • คิดลบ มองโลกในแง่ร้าย มีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง

การดูแลตัวเองเมื่อมีภาวะซึมเศร้า

  • หลีกเลี่ยงการเก็บตัวอยู่คนเดียว เพื่อลดความรู้สึกโดดเดี่ยว และช่วยให้ใจค่อย ๆ ได้ฟื้นฟู
  • หากิจกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำเช่น จัดห้อง รดน้ำต้นไม้ เพราะการได้ทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สำเร็จจะช่วยสร้างความรู้สึกเชิงบวก และให้กำลังใจในการก้าวต่อไป
  • อย่ากดดันตัวเอง ให้เวลากับการฟื้นฟูจิตใจ เพราะการฟื้นตัวต้องใช้เวลา การยอมรับและให้กำลังใจตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัย และการรักษา เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี

หากพบว่าตัวเองมีอาการคล้ายภาวะซึมเศร้าหลายข้อ และมีอาการต่อเนื่องเกินกว่า 2 สัปดาห์ จนเริ่มส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างรุนแรง ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

เพราะการขอความช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่คือการดูแลตัวเองที่ดีที่สุด

หากมีข้อสงสัยหรือกังวลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ อวตารคลินิกยินดีให้คำปรึกษา โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เน้นการรักษาแบบตรงจุดโดยใช้สมุนไพรไทยขึ้นตำรับ

อินโฟกราฟิก Self-Check แค่เครียดหรือซึมเศร้า อธิบายความแตกต่างระหว่างอาการเครียดกับภาวะซึมเศร้า โดยฝั่งความเครียดมักเกิดจากการตอบสนองต่อสถานการณ์ เช่น ปัญหาการเงิน การเรียน หรือการทำงาน มีอาการหงุดหงิดง่าย สมาธิสั้น ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ นอนหลับไม่สนิท และพฤติกรรมการกินเปลี่ยนไป ส่วนภาวะซึมเศร้าเป็นความผิดปกติที่รุนแรงมากกว่า ส่งผลต่ออารมณ์และพฤติกรรมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ อาการที่พบบ่อยได้แก่ หดหู่ สิ้นหวัง เบื่อหน่าย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง นอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป มองโลกในแง่ร้าย และมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง อินโฟกราฟิกยังแนะนำการดูแลตัวเองเมื่อเครียด เช่น ออกกำลังกาย พักผ่อน พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ และการดูแลตัวเองเมื่อเป็นซึมเศร้า เช่น หลีกเลี่ยงความเครียด หากิจกรรมเล็กๆ ที่ผ่อนคลาย ไม่กดดันตัวเอง และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต

อ้างอิง : คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงพยาบาลราชพฤกษ์, โรงพยาบาลศิครินทร์

Scroll to Top