มะเร็งปอดเป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่พบบ่อย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของคนไทย ซึ่งผู้ป่วยจำนวนมากมักไม่รู้ตัวจนกระทั่งอาการรุนแรง ทำให้การรักษาเป็นไปได้ยากขึ้น โดยมีฝุ่น PM2.5 เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคนี้
PM 2.5 คืออะไร ทำไมถึงทำให้เสี่ยงมะเร็งปอด
ฝุ่น PM 2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ที่เกิดจากมลพิษจากโรงงาน ท่อไอเสียรถยนต์หรือการเผาป่า ซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ถุงลมปอด และกระแสเลือดได้ง่าย
การหายใจเอา PM 2.5 เข้าไปในทุก ๆ วันอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ปอดของเราได้รับสารพิษสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งปอดในระยะยาว
โดย PM 2.5 เป็นสารก่อมะเร็งที่องค์การอนามัยโลก (WHO) จัดให้อยู่ในกลุ่มที่ 1 ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ เมื่อหายใจเอา PM 2.5 เข้าไปในร่างกาย มันจะเข้าไปฝังตัวอยู่ในปอด ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในปอด ซึ่งอาจกลายเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด
อาการที่ต้องระวัง
- ไอเรื้อรัง ไอแห้งหรือไอมีเสมหะปนเลือด
- เจ็บหน้าอก โดยเฉพาะเวลาหายใจเข้าลึกๆ หรือไอ
- หายใจลำบาก หายใจถี่ หรือมีเสียงหวีดขณะหายใจ
- เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย
ใครคือกลุ่มเสี่ยงโรคมะเร็งปอด ?
- ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษทางอากาศสูง
- ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำหรือใกล้ชิดกับผู้ที่สูบบุหรี่
- ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปอด
วิธีป้องกันตัวเองจาก PM 2.5
- ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งหากไม่จำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงการสูดดมฝุ่น PM 2.5 โดยตรง
- ใช้เครื่องฟอกอากาศ ที่มีแผ่นกรอง HEPA เพื่อลดฝุ่นภายในบ้าน
- สวมหน้ากากอนามัย เพื่อหลีกเลี่ยงมลภาวะ
- รับประทานอาหารที่มีวิตามินซีและดี เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายขับฝุ่นที่อยู่ในกระแสเลือดผ่านทางปัสสาวะ
ในยุคที่มะเร็งสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายเหมือนไข้หวัด การตระหนักรู้ และตรวจพบแต่เนิ่น ๆ ก็สามารถรักษาให้หายได้ ที่ Avatar Clinic พร้อมดูแลคุณด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เน้นการรักษาที่ตรงจุดโดยใช้สมุนไพรไทย
แหล่งที่มา : โรงพยาบาลนครธน, โรงพยาบาลพญาไท, IQAir, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์
